inaction-br

Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.

blackrogue


    ระบบสงคราม (Fortress War) สงครามยึดป้อม

    Admin
    Admin
    ปรมจารย์
    ปรมจารย์


    จำนวนข้อความ : 86
    Join date : 15/10/2009

    ระบบสงคราม (Fortress War) สงครามยึดป้อม Empty ระบบสงคราม (Fortress War) สงครามยึดป้อม

    ตั้งหัวข้อ  Admin Tue Oct 20, 2009 4:53 pm

    ระบบสงคราม (Fortress War) สงครามยึดป้อม

    สงครามยึดป้อมในเกมส์นี้นั้นเป็นการรบกันระหว่างกิลด์ การรบดังกล่าวจะสามารถรองรับผู้เล่นได้ถึง 300 คน โดยที่กิลด์ทั้งหลายใน Black Rogue จะต้องปะทะกันเพื่อทำการยึดครองป้อมปราการในแต่ละสถานที่ได้จงได้

    ป้อมปราการนั้นตั้งอยู่ในสถานที่ต่างๆ ได้แก่ บริเวณใกล้เคียงกับเมืองใหญ่ๆ (พวกป้อมปราการขนาดใหญ่) และใกล้กับศูนย์การค้ากลาง (trading centers) (พวกป้อมปราการขนาดเล็ก) โดยกิลด์ที่สามารถยึดครองป้อมปราการขนาดใหญ่ได้จะได้สิทธิในการกำหนดอัตรา ภาษีและจัดเก็บภาษีในเมืองใหญ่ๆ ส่วนกิลด์ที่ยึดครองป้อมปราการขนาดเล็กนั้น จะได้สิทธิในการกำหนดอัตราภาษีและจัดเก็บภาษีที่ศูนย์การค้ากลาง (trading centers), เรือข้ามฟากต่างๆ, เรือส่วนตัว และตามอุโมงค์ทั้งหลายได้

    การเข้าร่วมในสงคราม
    ระบบสงคราม (Fortress War) สงครามยึดป้อม 30086fortressnpc17

    หัวหน้ากิลด์เท่านั้นที่มีอำนาจที่จะ เลือกว่าจะเข้าร่วมหรือไม่ในช่วงเวลาที่กำหนดไว้ โดยต้องไปลงทะเบียนกับ NPC Fortress Clerk และต้องต้องมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้

    * กิลด์นั้นมีเลเวลเพียงพอหรือสูงกว่า
    * สมาชิกในกิลด์ 3 คนหรือมากกว่านั้นเต็มใจร่วมด้วย
    * ต้องเสียค่าลงทะเบียนในการเข้าร่วม
    * ต้องเป็นกิลด์ที่ไม่ได้ยึดครองป้อมนั้นอยู่ หรือไม่ได้เป็นกิลด์พันธมิตรกับกิลด์ที่ยึดครองป้อมนั้น

    การยกเลิกการเข้ารบ

    เป็นสิทธิของหัวหน้ากิลด์โดยต้องยกเลิกในช่วงก่อนเริ่มการรบ โดยกดยกเลิกได้ในเมื่อเข้าในหน้า UI apply/cancel fortress war (ทั้งนี้ ค่าธรรมเนียมที่เสียไปก่อนแล้วนั้นจะไม่ได้คืน)

    เตรียมพร้อมเปิดศึก

    * กิลด์ที่สามารถยึดครองป้อมได้จะมีสิทธิในป้อมนั้นเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์
    * การสมัครเข้าร่วมสงครามนั้นจะต้องกระทำผ่าน Fortress clerk ในช่วงระหว่างวันจันทร์-พุธในแต่ละสัปดาห์ที่จะมีการเปิดสงครามขึ้น

    สงครามชิงป้อมนี้จะแบ่งออกเป็น 3 ช่วงด้วยกัน ได้แก่ การเตรียมตัวก่อนสงคราม, ระหว่างสงคราม และสิ้นสุดสงคราม

    หัวหน้ากิลด์ (ในที่นี้หมายถึงผู้บัญชาการรบ) สามารถแต่งตั้งรักษาการณ์ฯ (Deputy commander) ได้ 4 คน และวิศวกรทหาร (Military engineer)ได้ 10 คน โดยอำนาจของแต่ละตำแหน่งก็จะแตกต่างกันออกไป

    บทบาทของกิลด์ผู้ท้าชิง

    เมื่อเริ่มต้นสงครามจะถือว่ากิลด์ผู้ท้าชิงป้อมเป็นกิลด์ฝ่ายโจมตี โดยจะถือว่ากิลด์ที่คอยปกป้องป้อมเป็นศัตรูและสามารถโต้ตอบกลับได้ การโต้ตอบกลับดังกล่าวไม่มีโทษใดๆเช่นเดียวกับการ PK (เงื่อนไขดังกล่าวใช้ได้กรณีการรบนี้เท่านั้น)

    บทบาทของกิลด์เจ้าบ้าน

    กิลด์ที่ยึดครองป้อมอยู่และกิลด์พันธมิตรจะถือว่าเป็นกิลด์ฝ่ายป้องกัน และจะเป็นศัตรูกับกิลด์ฝ่ายโจมตี การโจมตีใดๆในสงครามนี้จะไม่มีโทษเช่นเดียวกับการ PK (เงื่อนไขดังกล่าวนี้ใช้ได้กรณีการรบนี้เท่านั้น)

    สงครามอุบัติ

    ทันทีที่เริ่มสงครามจะมีการนับถอยหลัง 5 วินาทีเพื่อให้ผู้เล่นอื่นที่ไม่ใช่สมาชิกกิลด์ฝ่ายเจ้าของป้อมได้ทราบ และผู้เล่นเหล่านั้นจะถูกส่งไปยังหมู่บ้านใกล้เคียงหลังจากการนับถอยหลัง สิ้นสุดลง

    ระบบสงคราม (Fortress War) สงครามยึดป้อม 30086fortressfortress13

    โดยในการบุกโจมตีนั้นหอคอยป้องกันทั้งหมด จะต้องถูกทำลายลง ไม่เช่นนั้นกิลด์ฝ่ายโจมตีจะไม่สามารถตี Heart of the fortress ได้ ถ้าหากทำลายได้แล้วจะมีการแจ้งบอกแก่เหล่าผู้เข้าร่วมสงครามว่า ณ ขณะนั้นหอคอยได้เสียหายลงหมดแล้ว และสามารถเข้าไปทำลาย Heart of the fortress ได้การตายในสงคราม

    ระบบสงคราม (Fortress War) สงครามยึดป้อม 30086fortressfortress14

    อย่างไรก็ตาม ผู้เล่นจะสามารถโจมตี Heart of fortress ได้ต่อเมื่อหอคอยป้องกันทั้งหมดได้ถูกทำลายผ่านไปแล้ว 3 นาที โดยจะปรากฏไอค่อน tool-tip ที่บอกถึงสถานการณ์หรือการแจ้งเตือนเวลาในการโจมตี Heart of the fortress ขึ้นมา

    เมื่อ Heart of the fortress ได้ถูกทำลายลง กิลด์และกิลด์พันธมิตรที่สามารถสร้างความเสียหายให้กับ Heart of the fortress ได้มากที่สุดจะกลายเป็นฝ่ายป้องกัน และฝ่ายอื่นๆจะกลายเป็นฝ่ายโจมตีแทน

    จุดเกิดของฝ่ายโจมตี

    * สมาชิกกิลด์ฝ่ายโจมตีสามารถฟื้นคืนชีพได้ที่ตำแหน่ง ใกล้กับ Command post tent ของฝ่ายตัวเอง ในกรณีที่กิลด์ของผู้เล่นไม่ได้ติดตั้ง Command post tent เอาไว้ ผู้เล่นจะฟื้นคืนชีพในเมืองที่ใกล้ที่สุด

    ระบบสงคราม (Fortress War) สงครามยึดป้อม 30086fortressfortress12

    จุดเกิดฝ่ายป้องกัน

    * กิลด์ที่เป็นเจ้าของป้อม : จะฟื้นตรงหน้าประตู Gate of Revival ภายในป้อม
    * กิลด์พันธมิตร : จะฟื้นตรงหน้าประตู Gate of Fortress ภายในป้อม

    **เมื่อผู้เล่นผ่านประตูหรือฟื้นคืนชีพจากการตายในสงคราม ผู้เล่นจะเป็นอมตะเป็นระยะเวลา 10 วินาที

    การสิ้นสุดของสงคราม

    กิลด์ที่สามารถยึดครองป้อมได้เมื่อสงครามจบลงจะกลายเป็นเจ้าของป้อมนั้น

    ในกรณีที่ฝ่ายโจมตียึดป้อมได้ และเจ้าของป้อมได้เปลี่ยนมือ : ส่วน ประกอบของป้อมปราการทั้งหมดจะถูกรีเซตกลับไปที่ค่าเริ่มต้น, NPC ต่างๆจะถูกเลิกจ้าง, ไอเท็ม และพาหนะ COS ต่างๆที่ถูกสร้างและฝึกฝนขึ้นมาจะถูกยกเลิกทั้งหมด

    หากฝ่ายป้องกันสามารถป้องกันป้อมเอาไว้ได้ : ระดับ ของป้อมที่ถูกลดลงจากการโจมตีก็จะไม่ฟื้นฟูเหมือนเดิม และส่วนประกอบอื่นๆที่ถูกทำลายเองก็จะไม่ฟื้นคืนเช่นกัน แต่ NPC, ไอเท็ม และพาหนะ COS ต่างๆที่ถูกสร้างและฝึกฝนทั้งยังตำแหน่งในการครองป้อมปราการดังกล่าวจะยังมี ผลอยู่เหมือนเดิม

    โครงสร้างของป้อมปราการ

    1.องค์ประกอบของป้อม (Fortress Structure)

    Heart of the fortress, Castle gate และ Guard towers จะถูกติดตั้งให้โดยอัตโนมัติ แต่ Defense camps นั้นตัวผู้บัญชาการ (the commander) หรือ War administrator จะต้องเป็นผู้กำหนดจุดในการติดตั้งเอง ในส่วนของโครงสร้างที่อยู่ในรูปแบบของไอเท็มเองก็สามารถใช้งานได้ในระหว่าง การเปิดวอร์เช่นกัน โดยจะสามารถติดตั้งเฉพาะจุดด้วยการใช้งาน Mobilized items (ยกเว้นไอเท็มจำพวก Flags เท่านั้นที่ไม่สามารถวางเฉพาะจุดได้)
    ระบบสงคราม (Fortress War) สงครามยึดป้อม 30086fortressconfigurat

    - Heart of Fortress

    เป็นเป้าหมายที่สำคัญที่สุดในสงครามชิงป้อมนี้ โดยผู้เล่นจะไม่สามารถโจมตีมันได้ หากไม่ได้ทำลาย Guard towers ที่ตั้งอยู่ในป้อมปราการทั้งหมดลงเสียก่อน และเมื่อผู้เล่นสามารถทำลาย Heart of fortress ลงได้ก็จะได้ครอบครองป้อมนั้นเป็นการชั่วคราว โดย Heart of fortress นี้สามารถโจมตีผู้เล่นด้วยการลด HP หรือทำให้ผู้เล่นติดสถานะผิดปกติต่างๆได้

    - Castle Gate

    หนทางเพียงหนึ่งสำหรับผู้ท้าชิงที่จะเข้าไปภายใน Exterior castle ได้ ประตูที่แข็งแกร่งและพรั่งพร้อมไปด้วยความสามารถในการป้องกัน โดยผู้บัญชาการ (Commander), ผู้รักษาการณ์แทนผู้บัญชาการ (Deputy commander), และ Combat administrator ซึ่งครอบครองป้อมนั้นอยู่มีสิทธิที่จะเปิดปิดประตูนั้นโดยง่ายด้วยการใช้รอก ยามใดที่ประตูนี้ถูกทำลายลง เหล่าผู้ท้าชิงในสงครามนี้ก็จะสามารถเข้ามาภายใน Exterior castle ได้

    - Defense camps

    แค้มป์ที่ตั้งอยู่บริเวณรอบ Castle gate, Guard tower และ Heart of the fortress หากเหล่าสมาชิกของกิลด์ที่ครอบครองป้อมอยู่ภายใน defense camps นี้แล้วล่ะก็ ทั้งความรุนแรงของการโจมตีด้วยพลังกายหรือพลังเวทย์ และความทนทานต่อความเสียหายต่างๆจะเพิ่มมากขึ้น (Defense camps นี้สามารถใช้ได้กับเฉพาะกิลด์ที่ครอบครองป้อมเท่านั้น ไม่รวมไปถึงกิลด์พันธมิตรด้วย)

    - Guard towers

    หอคอยที่สามารถอัพเกรดได้ในระหว่างการครอบครองป้อมนั้นเท่านั้น สามารถคุ้มกัน Heart of fortress ด้วยการทำให้ผู้มาโจมตีติดสถานะผิดปกติต่างๆ และยังทำให้พลังเวทย์ของศัตรูได้รับความเสียหาย หอคอยป้องกันนี้มีอยู่ 4 ประเภท แบ่งเป็น หอคอยสายฟ้า (Thunderbolts guard tower) , หอคอยเพลิง (Flame guard tower) , หอคอยแช่แข็ง (Freezing guard tower) และ หอคอยความมืด (Darkness guard tower) โดยจะมีการโจมตีเริ่มตั้งแต่ phase II เป็นต้นไป

    - Obstacles (เครื่องกีดขวางต่างๆ)

    อยู่ในรูปของไอเท็ม มีความทนทานและพลังป้องกันต่ำ

    - Command post tents

    สามารถสร้างขึ้นจากไอเท็มจำพวกเครื่องกีดขวาง แต่ละกิลด์ที่เข้ามาท้าชิงการยึดป้อมสามารถสร้างขึ้นได้ 1 เต้นท์เท่านั้น เต้นท์บัญชาการนี้จะถูกใช้เป็นที่สำหรับการชุบชีวิตของเหล่าสมาชิกกิลด์(ยาม เมื่อตายในสงครามนี้) โดยสามารถฟื้นฟูค่า HP/MP ของสมาชิกได้เต็มเมื่อสมาชิกกิลด์เหล่านั้นมาอยู่ในบริเวณที่ที่เต้นท์ตั้ง อยู่

    - Combat flags

    เป็นอาวุธประเภท Castle attacking weapon ที่สามารถใช้ทำลายตัวโครงสร้างต่างๆของป้อมได้ โดยจะหายไปเมื่อถูกทำลายหรือหมดระยะเวลาการใช้งาน มีอยู่ด้วยกัน 3 ประเภท ได้แก่

    1. Flag of combat- เพิ่มพลังโจมตีทางกายภาพหรือพลังเวทย์ขึ้น 10% ของสมาชิก 24 คนในระยะ 24 เมตร เป็นเวลา 2 นาที
    2. Flag of defense- เพิ่มความต้านทานต่อการโจมตีทางกายภาพหรือพลังเวทย์ขึ้น 10% ของสมาชิก 24 คนในระยะ 24 เมตร เป็นเวลา 2 นาที
    3. Flag of healing- ฟื้นฟูค่า HP/MP 5% ของสมาชิก 24 คน ทุกๆ 5 วินาที ในระยะ 24 เมตร มีผล 2 นาที

    2. การซ่อมแซมและการดูแลป้อม

    การซ่อมแซม (Repair of Structure)

    * ผู้เล่นต้องจ่ายเงินให้กับ NPC Combat assistant ในช่วงเวลาที่ไม่ได้ทำสงครามเพื่อให้เขาทำการซ่อมแซมส่วนที่เสียหายให้ และส่วนในขณะที่ทำสงครามอยู่นั้น ผู้เล่นจะสามารถซ่อมส่วนที่เสียหายได้ผ่านเครื่องมือซ่อมแซมที่มีอยู่เอง
    * เครื่อง มือซ่อมแซมขนาดเล็กและกลางนั้นมีขายที่ Fortress clerk ส่วนเครื่องมือซ่อมแซมขนาดใหญ่จะต้องสั่งให้ Blacksmith ที่อยู่ในป้อมสร้างขึ้นให้เท่านั้น
    * การซ่อมแซมนี้จะสามารถซ่อมได้เฉพาะส่วนที่เป็นส่วนประกอบของป้อมเท่านั้น ไม่สามารถนำไปซ่อมแซมไอเท็มที่เกี่ยวพันกันอย่างอื่นได้

    การอัพเกรดป้อมปราการ (Upgrading Structures)

    * สามารถอัพเกรดกับ NPC Combat assistant ด้วยการจ่ายเงิน (Gold) และค่า Guild Point (GP) ยิ่งอัพเกรดเป็นเลเวลสูงเท่าไหร่ ระยะเวลาในการอัพเกรดก็จะมากขึ้นตามลำดับ รวมไปถึงเงินและค่า GP ที่ต้องเสียไปด้วย
    * จะ ไม่สามารถทำการอัพเกรดได้ ถ้าเลเวลการอัพเกรดต่อไปของป้อมมากกว่าเลเวลของผู้เล่นที่จะทำการอัพเกรด ในกรณีที่ความแข็งแกร่งของป้อมต่ำกว่า 100% การอัพเกรดจะทำได้ต่อเมื่อเสร็จสิ้นการซ่อมแซมป้อมหลังจบการวอร์ไปแล้ว
    * การอัพเกรดป้อมเป็น phase III และ V จะทำได้ต่อเมื่อผ่านช่วงเวลาที่เหมาะสมไปแล้วเท่านั้น

    สภาวะของป้อม (Condition of Structures)

    * ถ้าหากความทนทานของป้อม ปราการส่วนใดส่วนหนึ่งลดลงต่ำกว่า 100% ต้องทำการซ่อมแซม เมื่อไหร่ที่ความทนทานนั้นลดต่ำลงเหลือ 0% แล้ว ป้อมปราการส่วนนั้นจะพังทลายลง
    * ไม่สามารถทำลายป้อมด้วยการคลิกเม้าส์ได้
    * เมื่อ ป้อมจะพังทลาย จะมีการแจ้งเตือนไปยังผู้เข้าร่วมวอร์ทุกคน (ส่วนของป้อมที่สามารถพังทลายลงได้ ได้แก่ Castle gate, Guard towers, Command post tents และ Heart of fortress

    การทำงานของป้อม (Operation of Structures)

    * การ เปิดปิดประตูด้วยการชักรอกมีไว้สำหรับผู้ที่มีสิทธิใช้ได้เท่านั้น แต่ในกรณีที่ Castle gate ถูกทำลายลงจะไม่สามารถใช้งานในส่วนนี้ได้
    * ผู้ มีสิทธิใช้ชักรอกในการเปิดปิดประตู ได้แก่ ผู้บัญชาการ (Commander), รักษาการณ์ฯ (Deputy commander) และ Administer ของกิลด์ที่ครอบครองป้อมกิลด์ปัจจุบัน (รวมไปถึงกิลด์ที่ได้ครอบครองชั่วคราวด้วย)

    Fortress NPC

    1. การจัดการเกี่ยวกับ Fortress NPC

    ผู้เล่นจะไม่สามารถคุยกับ NPC ที่ป้อมได้จนกว่าจะจ้าง NPC Fortress administer โดยการจ้าง NPC ที่ป้อมนั้นจะต้องเสียเงินและค่า GP ตามที่กำหนดไว้ โดยหัวหน้ากิลด์ (ที่บัญชาการรบ) จะเป็นผู้มีอำนาจในการจ้าง NPC เพียงผู้เดียว โดยการจ้างนี้ต้องเสียค่าใช้จ่ายคือ เงินและค่า GP

    ระบบสงคราม (Fortress War) สงครามยึดป้อม 30086fortressnpc15

    การเลิกจ้าง NPC

    * ผู้เล่นไม่มีอิสระในการเลิกจ้าง NPC
    * NPC ที่ป้อมจะถูกเลิกจ้างโดยอัตโนมัติในกรณีที่ผู้เล่นเสียการครอบครองป้อมนั้นๆ เมื่อ NPC ดังกล่าวถูกเลิกจ้าง เหล่าไอเท็มที่ถูกสร้างขึ้นรวมไปถึงคอร์สการฝึกฝนที่มาพร้อมกับ NPC จะหายไปด้วย

    การใช้งาน NPC

    เมื่อ NPC ถูกจ้างแล้ว สมาชิกของกิลด์ที่ครองป้อมอยู่ขณะนั้นรวมไปถึงกิลด์พันธมิตรสามารถใช้เมนู ของ NPC นั้นได้ แต่บางคำสั่งในเมนูนั้นจะมีแค่หัวหน้ากิลด์ (ในที่นี้คือ commander ผู้บัญชาการรบในวอร์เท่านั้น) และสมาชิกที่ถูกแต่งตั้งจากหัวหน้ากิลด์ให้สามารถใช้คำสั่งนั้นได้ (กรณีการใช้คำสั่งนี้ไม่รวมไปถึงกิลด์ที่สามารถยึดครองป้อมได้ในระหว่างการ วอร์)

    2. Fortress Administrator

    ระบบสงคราม (Fortress War) สงครามยึดป้อม 30086fortressnpc11

    เป็น NPC พื้นฐานที่ต้องทำการจ้าง และมีอำนาจจัดการงานเกี่ยวกับการควบคุมภาษี, ภารกิจในการวอร์ และจัดจ้าง NCP ใหม่ๆ เมื่อกิลด์นั้นสามารถยึดครองป้อมได้ในระยะเวลาหนึ่ง

    3. Fortress clek

    ระบบสงคราม (Fortress War) สงครามยึดป้อม 30086fortressnpc16

    จะประจำอยู่ในเมืองใหญ่ใกล้กับป้อม โดยมีหน้าที่คือรับสมัครผู้เล่นที่ต้องการจะร่วมศึก และซื้อขายไอเท็มที่จำเป็นต้องใช้ในสงครามชิงป้อมปราการนี้

    4. Combat assistant

    ผู้ช่วยในการรบนี้จะประจำอยู่ในป้อม มีหน้าที่รับผิดชอบในการจ้างการ์ด (Guard) และจัดการโครงสร้างป้อม โดยมีแค่หัวหน้ากิลด์ (ในที่นี้หมายถึงผู้บัญชาการรบ) และ War administrator ที่สามารถกดเลือกคำสั่งใช้งานของ NPC ตัวนี้ได้

    ระบบสงคราม (Fortress War) สงครามยึดป้อม 30086fortressnpc19
    ปรับแต่งป้อมได้ที่ NPC ตัวน

    5. Blacksmith

    ประจำการอยู่ในป้อม เขามีหน้าที่ในการผลิตและซ่อมแซมไอเท็มต่างๆ หัวหน้ากิลด์ (ในที่นี้หมายถึงผู้บัญชาการรบ) และ Production administrator เท่านั้นที่มีอำนาจใช้งานเขาได้ ซึ่งการจ้าง production administrator มาช่วยดูแลในเรื่องนี้ให้จะช่วยประหยัดเงินและเวลาในการผลิตไอเท็มได้มาก

    6. Trainer

    ประจำอยู่ที่ป้อมปราการ มีหน้าที่สอนการขนส่งด้วยพาหนะต่างๆ ผู้ที่มีอำนาจใช้งานเขา ได้แก่ หัวหน้ากิลด์ (ในที่นี้คือผู้บัญชาการรบ) และ Training administrator ซึ่งการจ้าง Training administrator นั้นจะช่วยประหยัดเงินและเวลาในการฝึกได้มากขึ้น

    7. Guards

    เป็น NPC ที่มีหน้าที่รับผิดชอบความปลอดภัยของป้อม แบ่งได้เป็น 2 ประเภทด้วยกัน คือ Stationary และ Mobile patrol guards (การ์ดประจำจุด และการ์ดลาดตระเวน) แต่ละจุดในป้อมขนาดใหญ่สามารถมีการ์ดประจำการณ์อยู่ได้ถึง 30 คน ส่วนป้อมขนาดเล็กสามารถประจำการณ์ได้ 15 คน

    ระบบสงคราม (Fortress War) สงครามยึดป้อม 30086fortressnpc115

    * การ์ดจะเป็นมิตรกับกิลด์ที่ครองป้อมนั้นอยู่ปัจจุบันกับกิลด์พันธมิตร และจะไม่โจมตีผู้เล่นนอกเหนือไปจากช่วงเวลาการรบและการยึดป้อม
    * สมาชิกของกิลด์อื่นที่ไม่ใช่กิลด์ที่ครอบครองป้อมและกิลด์พันธมิตรสามารถโจมตีการ์ดได้
    * ใน กรณีที่ผู้เล่นเป็นสมาชิกของกิลด์ฝ่ายท้าชิง หรือนักฆ่า (killer) จะถูกการ์ดโจมตี (แต่ถ้าเป็นนักฆ่าของฝ่ายกิลด์ที่ครอบครองป้อมหรือกิลด์พันธมิตรการ์ดจะไม่ โจมตี)

    Fortress monster

    เป็นสัญลักษณ์ของป้อมนั้นๆ ผู้มีสิทธิในการใช้งานมอนสเตอร์เคลื่อนที่ได้เหล่านี้มีเพียงหัวหน้ากิลด์ (ในที่นี้หมายถึงผู้บัญชาการรบ)เพียงผู้เดียว โดยมอนสเตอร์ประจำป้อมเหล่านี้จะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ Production monsters fabricated at the fortress (มอนสเตอร์ที่ถูกสร้างขึ้นที่ป้อม) และ monsters for sale available from the fortress clerk (มอนสเตอร์ที่สามารถหาซื้อได้จาก fortress clerk)

    ระบบสงคราม (Fortress War) สงครามยึดป้อม 30086fortressnpc116
    ระบบสงคราม (Fortress War) สงครามยึดป้อม 30086fortressnpc117

    ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก GameDB ของ Online-station และคุณ kawaiiboyz

      เวลาขณะนี้ Fri May 10, 2024 7:51 pm